Reviews: Kimera Arrow Point Brush

หลังจากที่ได้ลองใช้มาพักใหญ่ๆ วันนี้ได้โอกาสนำพู่กันของ Kimera แบบหัว Arrow มารีวิวให้ชมกันเสียทีครับ ส่วนตัวรู้สึกสนใจพู่กันตัวนี้ตั้งแต่ตอนที่ได้เห็นข่าวว่าทาง Kimera Models จะทำพู่กันขนสัตว์ Kolinsky Sable แบบใหม่ออกมา จนเมื่อปีที่แล้วได้ไปงาน Monte San Savino ที่ประเทศอิตาลีและทาง Pegaso & Kimera นำพู่กันนี้มาเปิดตัวและวางจำหน่าย ก็เลยซื้อมาลองดู ตอนที่ได้มาใหม่ๆก็ลองใช้ไปหน่อยแต่รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะกับงานมิเนียเจอร์ตัวเล็กๆที่ทำเป็นประจำสักเท่าไหร่ก็เลยไม่มีโอกาสได้ลองใช้แบบจริงจังสักที จนเมื่อไม่นานมานี้ได้โอกาสนำฟิกเกอร์ในสเกล 75mm มาทำเลยถือโอกาสนำพู่กันนี้มาลองใช้กับฟิกเกอร์ตัวนี้ดูครับ

สำหรับพู่กันแบบหัว Arrow ที่ทาง Kimera ทำขึ้นมา จะเป็นเหมือนการผสมผสานระหว่างพู่กันแบบแบนกับพู่กันแบบหัวกลมเอาไว้ด้วยกัน รูปทรงของขนพู่กันจะเป็นแบบสามเหลี่ยมเหมือนกับหัวลูกศร ตรงโคนพู่กันจะกว้างและค่อยๆแคบลงจนเป็นปลายแหลมบริเวณปลายพู่กัน ลักษณะแบบนี้ช่วยให้พู่กันนั้นอุ้มน้ำได้ดีกว่าพู่กันหัวกลมเพราะมีพื้นที่ของขนที่ใช้อุ้มน้ำมากกว่า แต่ยังสามารถลากเส้นที่เรียวเล็กได้เพราะมีปลายแหลมเหมือนกับพู่กันหัวกลม ส่วนตัวไม่แน่ใจว่านี่เป็นนวัตกรรมแบบใหม่ที่ทาง Kimera คิดขึ้นขึ้นมาเองเลย หรือว่าเป็นพู่กันแบบที่มีใช้อยู่ในแวดวงศิลปะในการวาดภาพอยู่แล้ว และทาง Kimera นำมาผลิตใหม่ให้เหมาะสำหรับงานเพ้นท์มิเนียเจอร์ครับ 

เท่าที่ลองใช้งานดู พู่กันแบบนี้จะสามารถลากเส้นได้ทั้งใหญ่และเล็กตามหน้าตัดของพู่กัน ถ้าลากพู่กันตามหน้าตัดด้านหน้าที่เป็นรูปสามเหลี่ยม ก็จะได้เส้นที่ใหญ่หนาตามขนาดของหน้าตัด เหมาะสำหรับการทาพื้นที่กว้างๆ แต่ถ้าลากพู่กันตามหน้าตัดด้านข้างที่เป็นทรงแบน ก็จะได้เส้นที่เรียวบางเหมาะสำหรับการทาเก็บรายละเอียดเล็กๆต่างๆ ตอนที่เอามาลองใช้ทีแรกก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกันเพราะทาๆไปได้เส้นเล็กบ้างใหญ่บ้าง แต่พอใช้ไปสักพักจนเริ่มคล่องและจับทางได้ก็รู้สึกว่ามันสะดวกมากทีเดียว และเหมาะมากกับงานฟิกเกอร์หรืองานบัสที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย การควบคุมพู่กันให้เป็นหน้าตัดด้านหน้าหรือด้านข้างทำได้ง่ายๆแค่เพียงหมุนนิ้ว ช่วยให้สามารถเพ้นท์ทั้งพื้นที่เล็กและใหญ่ได้พร้อมๆกัน และขนพู่กันที่อุ้มน้ำได้เยอะก็ช่วยให้สามารถเพ้นท์พื้นที่ได้กว้างโดยที่ไม่ต้องจุ่มสีหลายรอบ ลักษณะของขนนั้นสปริงตัวได้ดีและไม่อ่อนเกินไปในความรู้สึกส่วนตัว ทำให้การลงน้ำหนักในการลากเส้นต่างๆทำได้อย่างสะดวกและเหมาะกับการทำงานของตัวเอง พอใช้งานจนคล่องแล้วทำให้การทำงานนั้นสะดวกมากๆ

ฟิกเกอร์ในภาพที่ลงให้ชมกันใช้พู่กัน Kimera No.0 Arrow point brush ด้ามเดียวในการเพ้นท์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นดีเทลเล็กๆบนใบหน้าหรือพื้นที่ใหญ่ๆบนลำตัว ทำได้อย่างสะดวกด้วยพู่กันเพียงด้ามเดียว ข้อดีอีกอย่างคือพู่กันหัวแบบ Arrow นี้เหมาะมากๆสำหรับการเพ้นท์จุดวงกลมขนาดเล็ก เพราะรูปทรงของพู่กันที่เป็นแบบสามเหลี่ยม ทำให้เวลากดปลายพู่กันให้เป็นจุด ปลายพู่กันจะไม่งอหรือเบี้ยวออกด้านข้าง ทำให้ได้จุดวงกลมที่ดูสมมาตร เหมาะมากๆสำหรับการใช้เขียนดวงตาของฟิกเกอร์ที่มีขนาดเล็ก (วิธีนี้เห็นมาจากวีดีโอของ Erik Swinson ที่พูดถึงเรื่องนี้ พอเอามาลองใช้แล้วดีมากจริงๆ)

จากที่ได้ลองใช้มาส่วนตัวชอบพู่กันแบบ Arrow นี้มากๆและประทับใจสุดๆ ยกให้เป็นพู่กันที่ดีที่สุดในตอนนี้สำหรับการเพ้นท์ฟิกเกอร์หรือบัสของตัวเองเลย พู่กัน Kimera Arrow point brush ตอนนี้มีทำออกมา 2 เบอร์ คือเบอร์ 0 และเบอร์ 2 และในอนาคตจะมีเบอร์ 00 ตามออกมาอีกทีหลังจากที่เปิดให้สั่งในคิกสตาร์ทเตอร์ล่าสุดของทางคิเมร่าเมื่อตอนต้นปี ราคาของเบอร์ 0 บนหน้าเว็บไซต์อยู่ที่ 18 euro ถือว่าเป็นพู่กันที่มีราคาแพงพอสมควร แต่ด้วยคุณภาพแล้วก็ถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียว ใครสนใจก็ลองหามาใช้งานกันดูได้ครับ เป็นพู่กันอีกยี่ห้อที่แนะนำว่าคุณภาพดีจริงครับ ส่วนในลิ้งด้านล่างจะมีวีดีโอแนะนำการใช้งานพู่กันของคิเมร่าแบบนี้อยู่ ลองกดเข้าไปชมเพื่อช่วยในการตัดสินใจกันได้ครับ

https://www.pegasoworld.com/product/single-kimera-brushes-kolinsky-sable/

My New Year's Resolution

เอาจริงๆที่ผ่านมาไม่เคยคิดจะตั้งปณิธานใดๆในตอนต้นปีมาก่อนเลย เพราะรู้สึกชอบที่จะใช้ชีวิตแบบสบายๆทำอะไรไปตามใจเรื่อยๆมากกว่า แต่เนื่องจากในปีหน้า (2025) จะมีงานประกวดใหญ่ World Model Expo 2025 ที่ประเทศฝรั่งเศส และตั้งใจว่าอยากที่จะนำผลงานที่ดีที่สุดของตัวเองไปร่วมประกวด เพราะไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้ทำเต็มที่เหมือนที่ไปยุโรปเมื่อปลายปีที่แล้ว ดังนั้นปีนี้จึงต้องเตรียมตัวเสียแต่เนิ่นๆและตั้ง New Year's Resolution เพื่อกำหนดเป้าหมายของปีนี้ว่าจะต้องทำโมเดลเหล่านี้ให้สำเร็จทั้งหมดให้จงได้ หรืออย่างน้อยๆก็ต้องทำให้ได้มากที่สุด 😅 และจะได้เป็นแรงกระตุ้นให้ตัวเองตั้งใจทำผลงานสำหรับส่งประกวด ไม่ไขว้เขวไปทำอย่างอื่นที่นอกเหนือจากที่ตั้งใจไว้เหมือนที่ผ่านมาๆ 😅 

ส่วนตัวพยายามเลือกงานที่อยากจะทำไปส่งประกวดจริงๆ และประเมินตามความจริงว่าน่าจะทำเสร็จได้ทัน มีทั้งหมด สามชิ้นประกอบไปด้วย 

ชิ้นแรก Tinker Bell ของยี่ห้อ Blacksmith Miniatures สำหรับประเภท Fantasy Painting เป็นงานที่ขึ้นเอาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วประกอบตัวนกเสร็จเรียบร้อยเหลือทำส่วนฐานเพิ่ม ช่วงปลายปีที่แล้วมีอุบัติเหตุของตกใส่จนขานกหัก เดี๋ยวคงต้องมานั่งซ่อมใหม่อีกที

ชิ้นที่สอง Imperial  German Flamflower ขนาด 1/16 ของยี่ห้อ Jeffshiu's Miniatures สำหรับประเภท Historical Painting ชิ้นนี้ได้แรงบันดาลใจจากหนังเรื่อง 1917 อยากจะทำฟิกเกอร์ที่ถ่ายทอดอารมณ์ของสงครามผ่านถึงคนดูได้สักครั้ง เริ่มขึ้นเอาไว้หลายปีแล้วแต่ยังประกอบไม่เสร็จ

ชิ้นที่สาม Death Korps of Krieg vignette งานฉากจำลองจาก Warhammer 40,000 ที่ประกอบและเตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ตั้งใจจะทำมาตั้งแต่ปีก่อนแต่ยังไม่ถูกใจกับไอเดียที่คิดไว้นักก็เลยดองเอาไว้ยาวๆ จนเมื่อปลายปีที่แล้วไปดูงานประกวดที่มอนเต้แล้วได้ไอเดียมาใหม่สำหรับงานชิ้นนี้ เลยจะเอามาทำใหม่อีกรอบ ชิ้นนี้ยังไม่แน่ใจว่าลงประเภทไหนได้ ต้องรอดูกติกาอีกที

และถ้าสุดท้ายสามารถทำทั้งสามชิ้นนี้ได้สำเร็จตามที่ตั้งเป้าเอาไว้ และมีเวลาเหลือมากพอ ค่อยเลือกจากกองสำรองมาทำเพิ่มเติมเท่าที่ไหว จะได้มีผลงานไปส่งได้หลายชิ้นหน่อยครับ 

ตั้งเป้าหมายเอาไว้เรียบร้อย ไว้ถึงสิ้นปีค่อยมาดูกันอีกทีว่าจะสามารถทำได้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้หรือไม่ หรือจะทำได้มากน้อยกว่าที่คิดเอาไว้แค่ไหน สิ้นปีค่อยมาสรุปกันอีกที ตอนนี้ต้องเตรียมตัวลุยได้แล้ว ปีนี้จะตั้งใจให้เต็มที่ครับ 

Happy Modeling & Painting

Projects in Progress - June 2023

ช่วงนี้พอมีเวลาว่างเลยนำงานที่นอกเหนือจากวอร์แฮมเมอร์มาทำบ้างครับ หลังจากที่ไม่ได้ทำงานประเภทอื่นๆมานานพอสมควร ชิ้นสุดท้ายที่ทำเสร็จตั้งแต่ปี 2020 เป็นบัสทหารเยอรมัน พอทิ้งไปนานๆมันก็จะเริ่มอยากกลับมาทำอีก รอบนี้ตั้งใจว่าจะเอางานบัสของ Figone ที่ทำค้างไว้หลายปีมาทำให้เสร็จให้ได้ รวมไปถึงฟิกเกอร์อัศวินของ Pegaso ที่ทำทิ้งเอาไว้นานแล้วเช่นกัน แล้วก็ Tinker Bell ของ Blacksmith Miniatures ที่ตั้งใจว่าจะทำไว้สำหรับงานประกวดปลายปีนี้ นี่เป็นสามชิ้นหลักที่ตั้งใจว่าจะทำให้เสร็จทั้งหมดภายในปีนี้ (ถ้าเป็นไปได้ 😅)

ส่วนฟิกเกอร์ทหารอเมริกันขนาด 1/35 ของ Alpine Miniatures ตั้งใจว่าจะเอาไว้ประกอบฉากจำลองรถถังในอนาคต เลยเริ่มนำมาประกอบเตรียมไว้ก่อน ทำไปพร้อมๆกับงานบัส Northern Wind ของ Big Child Creatives ที่ส่วนตัวอยากลองทำงานที่เป็นผู้หญิงดูบ้าง ที่ผ่านมายังไม่เคยทำงานที่เป็นผู้หญิงแบบจริงจังมาก่อนเลยสักชิ้น ส่วนหนึ่งเพราะที่ผ่านมาจะชอบทำงานแนวนักรบหรือสัตว์เหนือมนุษย์ต่างๆ เลยไม่ชอบงานปั้นผู้หญิงแบบที่ดูนุ่มนวลสวยงามสักเท่าไหร่ แต่ช่วงหลังเริ่มมีงานปั้นสวยๆที่เป็นนักรบผู้หญิงหรือมีคอนเซปต์งานที่ดูน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น ก็เลยเริ่มซื้องานผู้หญิงที่ดูน่าสนใจเก็บไว้บ้าง ตัดสินใจเอาตัวนี้มาลองทำชิมลางดูก่อน เพราะชอบในท่าทางและรายละเอียดต่างๆที่ปั้นออกมาได้สวยงามแต่ดุดัน หลังจากนี้ถ้านำไปทำสีแล้วชอบและสนุกในการทำก็คงจะมีงานผู้หญิงตัวอื่นๆตามออกมาอีก (หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นครับ 😅)

สำหรับงาน Warhammer ก็คงจะมีมาลงอีกเรื่อยๆเมื่อมีเวลาว่าง เพราะยังมีที่ทำเตรียมไว้รอลงสีอยู่อีกเพียบเลย 😅 รวมถึงโมเดลจากกล่อง Leviathan ด้วยที่ยังรอการทำสีอยู่อีกหลายชิ้น ไว้ถ้ามีความคืบหน้าของงานแต่ละชิ้นเมื่อไหร่คงจะนำมาลงให้ชมกันอีกเรื่อยๆครับ รอติดตามชมกันได้ แล้วพบกันใหม่ครับ

Knight Models: Delta Force

ในที่สุดก็ได้ตัว Delta Force ของ Knight Models มาครอบครองเสียที หลังจากที่ตามหามานานหลายปีมากๆ 

นี่เป็นหนึ่งในฟิกเกอร์ชุด Military Series OPS ที่ผลิตออกมาทั้งหมด 3 แบบและเลิกผลิตไปนานมากแล้ว ทำให้หายากพอสมควร ไว้เร็วๆนี้จะนำฟิกเกอร์ทั้งสามแบบมารีวิวให้ชมกันครับ 

ส่วนอีกกล่องเป็นฟิกเกอร์ทหารอินเดียยุคโบราณขนาด 75mm ของ Romeo Models ที่อยากได้มานานแล้วเพราะความแปลกตรงที่มีตัวตะกวดอยู่ด้วย เจอวางขายอยู่ในร้านเดียวกันพอดีเลยสั่งมาพร้อมกัน ไว้ถ้ามีโอกาสได้ทำตัวนี้เมื่อไหร่คงจะนำมารีวิวให้ชมกันอีกทีครับ

Latest projects WIP

Latest projects in progress on my workbench. I'll try to finish the vignette as soon as possible then continue working on Tinkerbell by Blacksmith Miniatures.

Future Projects

 ตั้งใจเอาไว้ว่าอีกสามปีข้างหน้าจะนำงานไปร่วมส่งประกวดในงาน WME อีกครั่งที่ประเทศฝรั่งเศส เลยต้องวางแผนเอาไว้แต่เนิ่นๆว่าจะทำอะไรไปส่งดี ที่ผ่านมายังไม่เคยเพ้นท์ฟิกเกอร์ผู้หญิงแบบจริงจังเลยสักครั้ง เลยอยากจะลองท้าทายตัวเองให้ทำอะไรใหม่ๆดูบ้าง จึงตัดสินใจเลือกฟิกเกอร์และบัสของค่าย Alexandros Models สองชิ้นนี้มาเป็นหัวข้อหลักที่จะใช้ทำส่งประกวด เนื่องจากส่วนตัวชอบผลงานการปั้นของ Ebroin ที่ปั้นทั้งสองชิ้นนี้ออกมาได้งดงามมากๆ อีกอย่างคือการเพ้นท์สีชุดกิโมโนก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่น่าลองมากๆเช่นกัน 

การเพ้นท์ลวดลายฟรีแฮนด์ลงบนชิ้นงานมีส่วนช่วยให้ผลงานนั้นดูโดดเด่นและน่าสนใจมากขึ้น และอาจจะทำให้ได้ลุ้นรางวัลด้วย (ถ้าทำออกมาได้ดีพอ 😅)

ผลงานทั้งสองชิ้นนี้จะดูน่าสนใจหรือไม่คงอยู่ที่การเลือกใช้สีและลวดลายบนชุดกิโมโนเป็นสำคัญ หลังจากนี้คงจะค่อยๆหาข้อมูลของลวดลายชุดกิโมโนแบบที่ต้องการ แล้วคงค่อยๆทำไปเรื่อยๆ มีเวลาในการเตรียมการสามปีก็หวังว่าคงจะทำได้เสร็จสมบูรณ์ทั้งสองชิิ้น แล้วถ้ามีความคืบหน้าของโปรเจ็กต์นี้เมื่อไหร่จะทยอยนำมาลงให้ชมกันเรื่อยๆนะครับ

Reviews: “ABANDERADO TERCIOS VIEJOS DE LOMBARDIA, Nordlingen 1634"

LIMITEDITIONS Series Blade and Musket 54mm (abundant)

วันนี้มีสินค้ายี่ห้อที่อาจจะไม่คันหูกันนักมารีวิวให้ชมครับ 

Limiteditions เป็นยี่ห้อฟิกเกอร์แนวประวัติศาสตร์จากประเทศอิตาลี จัดจำหน่ายโดย Maurizio Bruno ซึ่งเป็นนักปั้นอีกท่านที่มีชื่อเสียงในแวดวงฟิกเกอร์แนวประวัติศาสตร์และเคยได้รับรางวัลมาแล้วมากมายครับ

โดยสินค้าของยี่ห้อนี้จะเป็นผลงานการปั้นของ Maurizio เองทั้งหมด และแต่ละชิ้นที่เปิดขายจะผลิตออกมาในจำนวนจำกัดตามยอดของการสั่งซื้อ ที่จะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าภายในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้นครับ จะไม่มีการนำมาผลิตเพิ่มเติมในภายหลัง สินค้าของยี่ห้อนี้จึงหายากและไม่ได้เป็นที่รู้จักกันมากนักครับ

สำหรับฟิกเกอร์ตัวนี้เป็นทหารสเปนในสงคราม Battle of Nördlingen ปี 1634 ครับ ส่วนตัวไม่มีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในยุคนี้เลย แต่ด้วยความที่ชอบฟิกเกอร์แนวประวัติศาสตร์โดยเฉพาะแบบที่ถือธงมากเป็นพิเศษ เพราะรู้สึกว่ามันดูมีเรื่องราวดี ตอนที่ได้เห็นฟิกเกอร์ตัวนี้ครั้งแรกจึงชอบทันที และตัดสินใจซื้อมาลองดู แม้จะเป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักกับยี่ห้อนี้ก็ตาม

ซึ่งพอได้รับของมาก็ต้องประหลาดใจนิดหน่อยตรงที่ไม่มีแพคเกจเป็นกล่องให้มาเหมือนยี่ห้ออื่นๆ แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าคงเป็นธุรกิจเล็กๆแบบทำกันเอง ตัวฟิกเกอร์จะบรรจุอยู่ในซองพลาสติกแบบซิปล็อค พร้อมกับภาพถ่ายหน้ากล่องและใบรับรองสินค้าอันเล็กๆ แต่ก็แพคส่งมาให้อย่างแน่นหนาดี  ไม่มีชิ้นส่วนเสียหายใดๆครับ

พอได้ชิ้นงานจริงมารู้สึกว่ามันค่อนข้างใหญ่กว่าขนาด 54mm ทั่วไป เลยลองวัดดู ขนาดของตัวนี้จะอยู่ที่ประมาณ 65 mm จากหัวถึงเท้า ซึ่งถือว่าใหญ่กว่าพอสมควร เข้าใจว่าที่วงเล็บ (abundant) ไว้หลังสเกลคงจะเป็นเพราะมันใหญ่กว่าฟิกเกอร์ทั่วไปครับ

ส่วนรายละเอียดต่างๆของฟิกเกอร์ ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่หล่อชิ้นงานเรซิ่นออกมาได้ดีมากๆ ชิ้นส่วนทั้งหมด 8 ชิ้น เนื้อเรซิ่นคุณภาพดีหล่อได้คมชัด มีแค่รอยตะเข็บบางๆตรงกางเกงและรูเล็กๆตรงธงเท่านั้นให้ต้องจัดการ ชิ้นส่วนทุกชิ้นประกบเข้ากันได้อย่างลงตัวแนบสนิท เท่าที่เช็คดูเข้าใจว่ามีการตัดเกจบนชิ้นส่วนและขัดแต่งเบื้องต้นมาให้เรียบร้อยแล้วด้วย สังเกตในภาพจะไม่มีเกจติดบนชิ้นงานเลย ตรงส่วนนี้ประทับใจมากจริงๆ เพราะช่วยให้การประกอบนั้นทำได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น แค่เพียงขัดแต่งเล็กน้อยก็สามารถนำไปทำสีได้เลยครับ 

สนนราคาของฟิกเกอร์ตัวนี้อยู่ที่ 32 ยูโร ยังไม่รวมค่าส่งครับ และการชำระเงินจะใช้การโอนผ่านทาง PayPal ครับ

หากสนใจต้องการสั่งซื้อสินค้ายี่ห้อนี้ ให้ติดต่อโดยตรงกับตัวศิลปิน Maurizio Bruno ซึ่งเจ้าตัวจะคอยอัพเดทผลงานชิ้นใหม่ๆ และกำหนดการสั่งซื้อล่วงหน้าของแต่ละชิ้นอยู่เรื่อยๆครับ หรือขอสมัครเข้ากลุ่ม LIMITEDITIONS - MaB COLLECTORS GROUP ซึ่งเป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นเพื่อการซื้อขายผลงานของทาง Limiteditions โดยเฉพาะครับ

ภาพสินค้าตัวอื่นๆของ Limiteditions จากซีรี่ส์เดียวกัน ผลงานการเพ้นท์ของ Danilo Cartacci ครับ

Still in progress, October 2020

I posted this photo on my blog on October 3, 2017 to show what I wanted and planned to do at that moment. It's been three years since then and only three pieces are already finished, another three are still in progress, and the rest stay the same. 😅 (During three years I have finished only 7 projects including those three in this photo)

Time has changed my perspective on modeling and I lost interest to finish a couple of them, but I still wanted to finish the pieces that I already started. Hope it's not gonna take another three years to finish all of them. 😅

By the way, in case you want to see the 3 pieces that already finished, here are the links.

After 4 Hours Experiment with Anonimous Bust

Bad Santa

Officer 116th Pz.Div. "Windhund"

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ปี 2017 ผมโพสภาพนี้เอาไว้ในบล็อก เป็นภาพงานที่ตั้งใจและวางแผนที่จะทำ ณ ขณะนั้น ถึงตอนนี้ผ่านมาสามปีแล้ว มีเพียงแค่สามชิ้นในภาพที่ทำเสร็จสมบูรณ์ อีกสามชิ้นอยู่ระหว่างทำสีค้างเอาไว้ ส่วนที่เหลือยังอยู่ในสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง 😅

ช่วงสามปีที่ผ่านมาผมทำผลงานเสร็จไปได้เพียงแค่เจ็ดชิ้นเท่านั้น (รวมสามชิ้นที่อยู่ในภาพด้วย) และเวลาที่ผ่านมันก็ทำให้มุมมองที่มีต่อการทำงานนั้นเปลี่ยนไป รวมถึงความสนใจที่ต่างไปจากเดิมด้วย ถึงตอนนี้บางชิ้นที่เห็นในภาพก็อาจจะไม่นำมาทำต่อแล้ว แต่หลายๆชิ้นที่เหลือก็ยังอยากทำให้เสร็จอยู่ โดยเฉพาะชิ้นที่เริ่มไปแล้วและทำสีค้างเอาไว้ คงจะพยายามทำให้เสร็จก่อน ส่วนชิ้นอื่นๆก็คงจะนำมาทำต่อหลังจากนั้นอีกที ก็หวังว่าคราวนี้คงจะไม่ต้องใช้เวลาถึงสามปีกว่าจะทำเสร็จได้ครบทั้งหมด 😅 ไว้ถ้ามีความคืบหน้าเมื่อไหร่คงจะนำมาลงให้ชมกันอีกทีครับ

สำหรับท่านที่อยากเห็นภาพที่เสร็จแล้วของงานทั้งสามชิ้น สามารถเข้าไปชมได้ตามลิ้งที่ลงไว้ด้านบนครับ

Sgt. Blackburn (2.0)

I took some new photos of my previous project from last year, Sgt. Blackburn, and enter it into AK Model Competition. Turned out it won SCI-FI Special Prize. I'm so honored and humbled to receive this award. Thank you so much AK-Interactive, sponsors, and judges for the awesome online competition. Congratulations to all winners. 

Check out all the winners here.
https://www.facebook.com/AKinteractive.official/

For more photos of Sgt. Blackburn, you can check it on my blog.
https://thor-modelling.blogspot.com/2019/03/sgt-blackburn.html

#fingersweek

I like the idea of #fingersweek on Weathered Models group on Facebook, in order to show the actual size of our work being compared with our own hand. Here're some photos I took to support this idea.

ช่วงนี้ในกลุ่ม Weathered Model บนเฟซบุ๊ค มีหัวข้อในการร่วมสนุกด้วยการใช้ #fingersweek เพื่อโชว์ผลงานของแต่ละคนที่ถ่ายภาพคู่กับมือหรือนิ้วมือ เพื่อที่จะให้คนอื่นๆได้เห็นว่างานแต่ละชิ้นที่ทำกันนั้นมันมีขนาดที่แท้จริงเป็นอย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับมือของผู้ทำเอง ส่วนตัวชอบไอเดียนี้มากเลยเอางานที่มีอยู่มาลองถ่ายแบบนี้ดูบ้างครับ

Sgt. Blackburn

EFGF-HWP 
(Earth Federation Ground Force - Heavy Weapons Platoon)

Finally, here're the photos of my latest project. Well, I can say this is the most difficult project I've ever done so far and my most favorite piece up to date. I wanted to do a project like this one for so long, a scifi-fantasy miniature that I can try painting tattoo and colorful camo on it at the same time, also making a base with fully weathered that can tell a story of the miniature. It took me almost half a year to finish the whole project and I really satisfied with it.

The mini was painted with Vallejo Model Color for the skin and Kimera Kolors for the rest of the mini.
The base was made from plaster, wire mesh and some plastic details. The Zaku head was converted from gashapon Exceed Model Zaku Head and weathered with acrylic, enamel, and oils from various brands.

The Thai pattern tattoo on both arms was the most difficult part to paint because of its size. I wanted to paint a tattoo on miniature for so long especially with Thai pattern that I'm passionate about. The appearance of the mini is suited with the idea so I tried to do and make it looks like a real tattoo. I'm so happy and satisfied with the result.
This project is finally finished, hopefully, I'll have some crazy ideas and time to do something like this again soon in the future.

By the way, you can check out on my page and blog for more posts about making the Zaku head base.

https://www.facebook.com/Thor-Studio-307862392699162/
http://thor-modelling.blogspot.com/

ในที่สุดก็มีรูปมาให้ชมเสียทีครับ กับงานชิ้นล่าสุดที่ทำเสร็จตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่แล้ว "Sgt. Blackburn of the EFGF-HWP (Earth Federation Ground Force - Heavy Weapons Platoon). ซึ่งเป็นงานแบบที่ตัวเองอยากจะทำมานานมากๆ เพราะไม่ได้ทำงานที่เกี่ยวกับกันดั้มเลยมาร่วมสิบปี แล้วก็ไม่ได้ทำงานที่ต้องเวทเธอริ่งแบบเต็มขั้นตอนอย่างนี้มานานมากเช่นกัน รวมถึงอยากที่จะลองเพนท์ลายพรางแบบสีสันสดใสและลายสักแบบลายไทยลงบนตัวฟิกเกอร์มานานมากแล้ว การทำงานชิ้นนี้เลยเป็นการรวมหลายๆสิ่งที่อยากทำมานานเข้าไว้ด้วยกัน จนกลายออกมาเป็นแบบที่เห็นครับ

งานชิ้นนี้ผมใช้เวลาทำงานทั้งหมดไปร่วมครึ่งปีได้ และเป็นงานที่ถือว่ายากที่สุดตั้งแต่ตัวเองเคยทำมา โดยเฉพาะลายสักลวดลายไทยบนแขนทั้งสองข้างที่เรียกว่าต้องกินลูกท้อแกล้มไปด้วยตลอดตอนนั่งเพนท์ ทรมานสายตาตัวเองมากๆ แต่ผลลัพท์ที่ได้ก็ออกมาสมกับความพยายามที่ตั้งใจทำมัน 
สำหรับลายไทยที่เห็นเป็นการออกแบบลวดลายไทยประยุกต์ในแบบของตัวเอง จึงอาจจะไม่ได้ตรงตามหลักของการเขียนครับ ส่วนหน้าของพระราหูบนหัวไหล่ข้างซ้าย ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพเขียนของอาจารย์เฉลิมชัยครับ

การทำสีของตัวฟิกเกอร์ส่วนที่เป็นผิวเนื้อและโลหะใช้สีของ Vallejo Model Color ส่วนที่เหลือทั้งหมดใช้สี Kimera Kolors ครับ ส่วนฐานทำขึ้นมาจากปูนพลาสเตอร์ ตาข่ายลวด และพลาสติก หัวของซากุดัดแปลงเพิ่มรายละเอียดจากกาชาปอง Exceed Model Zaku Head ส่วนการทำสีและเวทเธอริ่งก็จะใช้ทั้งสีอะครีลิค เอนาเมลและสีน้ำมันผสมกันไปครับ

การทำงานชิ้นนี้แม้ว่าจะมีความยากในหลายๆขั้นตอน แต่ก็เป็นการทำงานที่สนุกมากๆเพราะได้ทำอะไรหลายๆอย่างที่อยากลองทำมานาน หวังว่าในอนาคตคงจะมีแรงมีเวลาและไอเดียแปลกๆให้ได้มาลองทำกันแบบนี้อีกครับ
ส่วนอาทิตย์หน้าคงจะมีงานชิ้นใหม่ที่กำลังทำอยู่มาลงให้ชมกันอีก เป็นอีกหนึ่งงานที่รอคอยและอยากทำมานาน โปรดติดตามชมครับ

สำหรับท่านที่สนใจขั้นตอนการทำฐานหัวซากุนี้ สามารถเข้าไปชมโพสขั้นตอนการทำได้ที่ในเพจและในบล็อกครับ

https://www.facebook.com/Thor-Studio-307862392699162/
http://thor-modelling.blogspot.com/