Rinaldi Studio Press: https://www.rinaldistudiopress.com/
Price: $25.00
136 pages
Reviews in English:
The Ghost of Zeon (YouTube)
Zaku Aurelius (YouTube)
Model Geek
สวัสดีครับ หนังสือเล่มแรกที่จะมารีวิวให้ชมกันเป็นหนังสือของทาง Rinaldi Studio Press เป็นค่ายหนังสือที่มีชื่อเสียงมากในการทำหนังสือสอนทำสีและเวทเธอริ่งโมเดลต่างๆ โดยเฉพาะโมเดลประเภทยุทธยานยนต์ ซึ่งทั้งหมดเป็นผลงานของ Michael Rinaldi โมเดลเลอร์ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในการทำโมเดลยุทธยานยนต์และเคยได้รับรางวัลจากงานประกวดต่างๆมาแล้วมากมาย
หนังสือในซีรีส์ SM (Single Model) แต่ละเล่มจะเจาะจงไปที่การทำโมเดลหนึ่งชิ้นตั้งแต่ขั้นตอนการประกอบ ทำสี เวทเธอริ่งจนจบผลงาน ซึ่งในแต่ละฉบับก็จะมีหัวข้อของโมเดลที่นำมาทำแตกต่างกันไปตามความสนใจของผู้เขียน อย่างใน SM ฉบับที่ 3 นี้ก็จะเป็นหัวข้อในการทำโมเดลหุ่นยนต์ประเภทกันดั้มพลาสติกโมเดล หรือที่เรียกกันสั้นๆว่ากันพลา ที่ตัวผู้เขียนบอกว่าสนใจเรื่องของการ์ตูนและอนิเมต่างๆมานานแล้วแต่ไม่เคยมีโอกาสได้ทำงานโมเดลประเภทนี้ นี่จึงเป็นครั้งแรกของตัวผู้เขียนเองที่ได้ลองทำและเขียนบอกเล่าวิธีการทำงานต่างๆของงานกันพลาในแบบของเขา
ดังนั้นเนื้อหาภายในฉบับนี้จึงพิเศษกว่าฉบับก่อนๆหน่อยตรงที่มีการทำโมเดลที่ต่างกันสองตัว คือ Rick Dome ในมาตราส่วน 1/144 (HG) สำหรับเป็นตัวทดลองเทคนิคการทำสีต่างๆเพื่อให้ได้ผลลัพท์แบบที่พอใจ ก่อนที่จะนำไปทำลงบนงานชิ้นหลักคือ Sazabi ในมาตราส่วน 1/100 (MG) ในภายหลัง
ขนาดของหนังสือเล่มนี้จะไม่ใหญ่มาก ใหญ่กว่ากระดาษขนาด A5 เล็กน้อย ประมาณ 19x16 เซ็นติเมตร มีความหนา 136 หน้า ภายในเล่มพิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตมัน ส่วนปกหน้าหลังเป็นกระดาษเนื้อแข็งผิวด้าน ราคาหนังสือหน้าเว็บบวกค่าส่งต่างประเทศ $30.00 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,000 บาท
เนื้อหาภายในเล่ม - โดยรวมจะแบ่งออกคร่าวๆเป็น 5 ส่วน
1. ส่วนของการทำโมเดล Rick Dome ที่ใช้เป็นตัวทดลองการทำสีและเวทเธอริ่ง โดยจะอธิบายเทคนิคหลักๆที่ใช้ในการทำโมเดลทั้งสองชิ้นคือ Hair Spray Technique (HS) หรือการทำสีกระเทาะและรอยถลอกต่างๆด้วยน้ำยาฉีดผม และ Oil Paint Rendering (OPR) หรือการทำเวทเธอริ่งด้วยการใช้สีน้ำมัน
2. ส่วนของการทำโมเดล Sazabi การประกอบ การทำสีรองพื้นและสีหลัก
3. การใช้ Hair Spray Technique (HS) บนตัวโมเดล Sazabi เพื่อทำสีกระเทาะและรอยถลอกต่างๆ รวมถึงการกั้นพ่นเครื่องหมายและการติดดีแคล
4. การเวทเธอริ่งหรือการทำคราบสกปรกต่างๆให้เหมือนสภาพที่ผ่านการใช้งาน ลงบนตัวโมเดล Sazabi โดยใช้เทคนิคสีน้ำมัน Oil Paint Rendering (OPR) เป็นหลัก ที่สามารถทำได้ทั้งคราบน้ำมัน คราบสนิม คราบรอยเปื้อนรอยสกปรกต่าง รวมถึงคราบดิน ฝุ่น และการทำให้สีพื้นนั้นดูซีดจาง
5. Gallery รวมภาพผลงานที่เสร็จสมบูรณ์ท้ายเล่ม
เอกลักษณ์หนึ่งของหนังสือจากค่ายนี้ คือนอกเหนือจากเขียนอธิบายการทำงานแบบละเอียดแล้ว ในส่วนเนื้อหาที่สำคัญจะมีกรอบหน้าต่างที่ใช้อธิบายวิธีคิดในการทำงานเพิ่มขึ้นมาคือ "W (Why)" ที่อธิบายถึงเหตุผลของการทำ และ "H (How)" ที่อธิบายวิธีหรือเทคนิคที่ใช้เพื่อให้ได้ผลลัพท์ในแบบที่ต้องการ
นอกจากนี้ก็จะใช้สัญลักษณ์วงกลมขนาดเล็ก เพื่อวงส่วนที่สำคัญในภาพที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ในการอธิบายของหน้านั้นๆ
ในส่วนเนื้อหาของหนังสือ จะเป็นหนังสือที่ใช้การเขียนอธิบายเยอะและค่อนข้างละเอียดทั้งในเรื่องของวิธีคิดที่นำมาใช้ เทคนิคในการทำงานต่างๆ รวมถึงมุมมองของตัวผู้เขียนเองที่มีต่อการทำงานในแต่ละส่วน
ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสือที่เน้นเรื่องของการอธิบายผ่านทางตัวอักษรค่อนข้างมาก แม้จะมีรูปภาพในเล่มมากพอสมควร แต่จะมีรูปภาพในแบบ Step-By-Step (SBS) หรือการอธิบายขั้นตอนไปทีละขั้นพร้อมกับรูปภาพ แค่ในบางขั้นตอนเท่านั้น เช่น การทำ HS หรือ OPR แต่โดยรวมแล้วการอธิบายวิธีการต่างๆนั้นก็ทำออกมาได้ดีมาก และรูปภาพประกอบต่างๆก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจวิธีการทำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในส่วนสำคัญที่จะอธิบายวิธีการอย่างละเอียดพร้อมกับภาพประกอบแบบทีละขั้น
ความคิดเห็นส่วนตัว - ผมเลือกหนังสือเล่มนี้มารีวิวก่อนเพราะคิดว่ามันน่าสนใจที่ได้เห็นมุมมองของผู้เขียนในการทำงานประเภทที่ต่างไปจากเดิม รวมถึงตัวผมเองก็กำลังสนใจการทำสีงานประเภทหุ่นยนต์อยู่จึงอยากที่จะศึกษาแนวทางการทำงานเอาไว้
และเนื่องจากหนังสือเล่มนี้พึ่งออกวางจำหน่ายได้ไม่นาน และเป็นหนังสือที่มาจากค่ายที่ทำหนังสือเกี่ยวกับยุทธยานยนต์เป็นหลัก จึงอาจจะมีคนรู้จักไม่มากนัก เลยอยากจะนำมาแนะนำให้ชมกันครับ
หากคุณกำลังสนใจเรื่องของการเวทเธอริ่งโมเดลประเภทหุ่นยนต์ นี่คือหนังสือที่ดีมากเล่มหนึ่งที่อธิบายขั้นตอนในการทำงานและวิธีคิดได้อย่างละเอียดและเป็นระบบ ผ่านมุมมองของคนที่ทำงานเวทเธอริ่งแบบสมจริงด้วยเทคนิคแบบเดียวกับที่ใช้ในงานประเภทยุทธยานยนต์ และอธิบายให้เข้าใจถึงที่มาที่ไปของการใช้เทคนิคต่างๆในการเวทเธอริ่งแต่ละขั้นได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตามเนื่องจากหนังสือเล่มนี้จะเป็นการโฟกัสไปที่โมเดลเพียงชิ้นเดียว ความหลากหลายของเทคนิคที่นำมาใช้และการอธิบายถึงที่มาของเทคนิคต่างๆจะไม่ละเอียดมากนัก แต่จะเน้นไปที่การอธิบายวิธีทำมากกว่า ซึ่งต่างจากหนังสือ Tank Art ของค่ายเดียวกัน ที่จะมีการทำโมเดลในเล่มหลายชิ้นและมีเทคนิคในการทำงานที่หลากหลายกว่า รวมถึงอธิบายเกี่ยวกับเทคนิคต่างๆเอาไว้อย่างละเอียดมากกว่าด้วย
ดังนั้นหากผู้อ่านยังไม่มีประสบการณ์ในการเวทเธอริ่งใดๆมาก่อนเลย อาจจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของการเวทเธอริ่งและศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อที่จะได้เข้าใจหลักการในการเวทเธอริ่งได้ดีมากขึ้น
ที่สำคัญต้องเข้าใจว่านี่ไม่ใช่หนังสือประเภทที่เน้นรูปภาพใหญ่ๆและเขียนอธิบายประกอบในภาพแต่ละขั้นแบบ SBS แต่เป็นหนังสือที่ต้องอาศัยการอ่านทำความเข้าใจบทความภาษาอังกฤษประกอบกับการดูรูปภาพ จึงจะช่วยให้เข้าใจถึงสิ่งที่เขาอธิบายได้อย่างเข้าใจ ดังนั้นหากทักษะทางด้านภาษายังไม่ดีนักก็อาจจะรู้สึกท้อกับตัวหนังสือจำนวนมากภายในเล่มได้ง่ายๆ
แต่ถ้าใช้ความอยากรู้อยากเรียนมาเป็นแรงผลักดันให้พยายาม หนังสือเล่มนี้ก็จะช่วยในการฝึกอ่านภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี เพราะมันเป็นเรื่องที่เราชอบและสนใจที่จะเรียนรู้ ยิ่งอยากรู้มากก็จะยิ่งพยายามมากเอง ที่ผ่านมาตัวผมเองก็ใช้วิธีนี้ในการฝึกฝนภาษาเช่นกัน คอยเปิดดิกแปลตลอดเวลาอ่านก็จะช่วยได้มาก พอทำบ่อยๆเข้าเราก็จะจำได้ดีขึ้นเองครับ
ก็หวังว่าบทความรีวิวนี้คงจะเป็นประโชยน์ช่วยในการตัดสินใจซื้อได้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะเขียนไม่ยาว ไปๆมาๆกลับกลายเป็นบทความรีวิวที่ยาวมากๆ และใช้เวลาไปไม่น้อยเลย ฮ่าๆ ขอบคุณทุกๆท่านที่อดทนอ่านกันครับ ไว้มีโอกาสอีกเมื่อไหร่จะมารีวิวหนังสือเล่มต่อไปให้ชมกันครับ
หากสนใจหนังสือเล่มนี้ลองเข้าไปสั่งซื้อได้ที่เว็บของ Rinaldi Studio Press ครับ
https://www.rinaldistudiopress.com/
Wednesday, October 4, 2017
Tuesday, October 3, 2017
In progress, October 2017
Hello everyone! I'm so sorry for haven't posted any updates on my work for a while. I haven't painted anything since I got back from Chicago in July. My day job is so busy at the moment and it took most of my free time.
However, I still have a few projects that are ready to paint waiting on my desk, some of them I've planned to do since last year. Hopefully, I'll find some free time to finish at least a couple of them before the end of this year. I'll post any updates on my work as soon as possible, see you again soon. ;)
สวัสดีครับ ช่วงที่ผ่านมาต้องขอโทษด้วยจริงๆครับที่ไม่ได้ลงความคืบหน้าใดๆของงานตัวเองที่ตั้งใจจะทำ เนื่องจากงานอาชีพที่ทำอยู่นั้นยุ่งจริงๆจนแทบไม่มีเวลาว่างให้กับงานส่วนตัว ผมยังไม่มีโอกาสได้เพนท์อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยตั้งแต่กลับจากงานที่ชิคาโกเมื่อเดือนกรกฎาคมครับ
วันนี้เลยอยากนำภาพงานที่เตรียมจะทำไว้มาให้ชมไปพลางๆก่อนครับ จะเห็นว่างานที่เตรียมจะทำนั้นค่อนข้างหลากหลาย ทั้งแนวทหาร ประวัติศาสตร์ ไซไฟ แฟนตาซี ผมเอาหมดครับ ฮ่าๆๆ ที่เห็นมีหลายๆชิ้นนี่บางชิ้นวางแผนเอาไว้ว่าจะทำตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เปลี่ยนใจไปทำงานชิ้นอื่นก่อนก็เลยยังคงรออยู่ในตู้แบบนี้
ส่วนตัวเวลามีเวลาว่างเล็กๆน้อยๆก็จะเอาโมเดลที่อยากจะทำ(ในตอนนั้น) มาประกอบอุดขัดให้เรียบร้อย แล้วพ่นสีรองพื้นรอไว้สำหรับพร้อมนำไปทำสี แต่ด้วยที่ผ่านมาไม่มีเวลาว่างยาวๆสำหรับนั่งเพนท์สี ก็เลยได้แต่ทยอยประกอบอุดขัดเตรียมไว้จนเยอะอย่างที่เห็นครับ จริงๆยังมีตัวอื่นๆอีกที่ทยอยทำเตรียมไว้ก่อนนำไปทำสี ถ้ามีโอกาสคงจะนำภาพมาลงอีกทีครับ
ในปีนี้ตั้งใจว่าจะทำให้เสร็จอย่างน้อยสักสองชิ้นจากที่เตรียมไว้พร้อมสำหรับทำสี ถ้ามีโอกาสได้เริ่มทำเมื่อไหร่จะนำภาพความคืบหน้ามาให้ชมกันแน่นอนครับ แล้วพบกันใหม่ครับ ;)
However, I still have a few projects that are ready to paint waiting on my desk, some of them I've planned to do since last year. Hopefully, I'll find some free time to finish at least a couple of them before the end of this year. I'll post any updates on my work as soon as possible, see you again soon. ;)
สวัสดีครับ ช่วงที่ผ่านมาต้องขอโทษด้วยจริงๆครับที่ไม่ได้ลงความคืบหน้าใดๆของงานตัวเองที่ตั้งใจจะทำ เนื่องจากงานอาชีพที่ทำอยู่นั้นยุ่งจริงๆจนแทบไม่มีเวลาว่างให้กับงานส่วนตัว ผมยังไม่มีโอกาสได้เพนท์อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยตั้งแต่กลับจากงานที่ชิคาโกเมื่อเดือนกรกฎาคมครับ
วันนี้เลยอยากนำภาพงานที่เตรียมจะทำไว้มาให้ชมไปพลางๆก่อนครับ จะเห็นว่างานที่เตรียมจะทำนั้นค่อนข้างหลากหลาย ทั้งแนวทหาร ประวัติศาสตร์ ไซไฟ แฟนตาซี ผมเอาหมดครับ ฮ่าๆๆ ที่เห็นมีหลายๆชิ้นนี่บางชิ้นวางแผนเอาไว้ว่าจะทำตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เปลี่ยนใจไปทำงานชิ้นอื่นก่อนก็เลยยังคงรออยู่ในตู้แบบนี้
ส่วนตัวเวลามีเวลาว่างเล็กๆน้อยๆก็จะเอาโมเดลที่อยากจะทำ(ในตอนนั้น) มาประกอบอุดขัดให้เรียบร้อย แล้วพ่นสีรองพื้นรอไว้สำหรับพร้อมนำไปทำสี แต่ด้วยที่ผ่านมาไม่มีเวลาว่างยาวๆสำหรับนั่งเพนท์สี ก็เลยได้แต่ทยอยประกอบอุดขัดเตรียมไว้จนเยอะอย่างที่เห็นครับ จริงๆยังมีตัวอื่นๆอีกที่ทยอยทำเตรียมไว้ก่อนนำไปทำสี ถ้ามีโอกาสคงจะนำภาพมาลงอีกทีครับ
ในปีนี้ตั้งใจว่าจะทำให้เสร็จอย่างน้อยสักสองชิ้นจากที่เตรียมไว้พร้อมสำหรับทำสี ถ้ามีโอกาสได้เริ่มทำเมื่อไหร่จะนำภาพความคืบหน้ามาให้ชมกันแน่นอนครับ แล้วพบกันใหม่ครับ ;)
Subscribe to:
Posts (Atom)