A little update from this project. The cap, goggles, sweater and rope have already finished. This project is quite big than my usual scale and has enough room to play with my paintbrush, so I think it would be great to paint and demonstrate the details of the fabric or material as I have been inspired by the works of Kirill Kanaev.
I used a paintbrush No.0 from Winsor and Newton series 7 for painting the small details such as knitting texture on the sweater, fabric and fur texture on the cap and rope texture. I also painted all of the details with Zenithal lighting theory in order to create light and shadow contrasts on the bust. For example, the color on the rope is brighter on top (left shoulder - highlight) then gradually gets darker in the bottom (right waist - shadow).
Note: a Russian fur cap called ushanka, it has ear flaps that can be tied up to the crown of the cap, or tied at the chin to protect the ears, jaw and lower chin from the cold. The thick dense fur also offers some protection against blunt impacts to the head. (ref. Wikipedia)
ความคืบหน้าเล็กน้อยของโครงการนี้ครับ ผมทำสีในส่วนของหมวก แว่นกันลม เสื้อไหมพรมและเชือกเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ซึ่งมาตราส่วนของงานประเภทบัสนี้จะค่อนข้างใหญ่กว่างานปรกติที่ผมทำ จึงทำให้มีพื้นที่มากพอให้ใส่รายละเอียดลงบนงานได้มากขึ้น ผมเลยลองเพนท์เลียนแบบลักษณะของพื้นผิวของผ้าหรือวัสดุในส่วนต่างๆ เพื่อทำให้ชิ้นงานนั้นดูมีรายละเอียดมากขึ้น ผมเองได้แรงบันดาลใจในการลองเพนท์แบบนี้จากการที่ได้ดูผลงานของ Kirill Kanaev ครับ
ผมใช้พู่กันเบอร์ 0 ของ Winsor and Newton series 7 ในการทาเก็บรายละเอียดเล็กๆเหล่านี้ แม้พู่กันแบบนี้จะมีราคาต่อด้ามค่อนข้างสูง แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพแล้วก็ถือว่าคุ้มค่ามากครับ เพราะจะช่วยให้ควบคุมการเพนท์ในพื้นที่เล็กๆหรือเส้นเล็กๆได้ดีกว่าพู่กันทั่วไปมากๆครับ นอกจากนี้ในการเพนท์บัสชิ้นนี้ ผมใช้วิธีการเพนท์แบบ Zenithal lighting ซึ่งจะเป็นการกำหนดให้แสงนั้นส่องลงมาจากด้านบนของชิ้นงาน และทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างแสงและเงา โดยที่ส่วนที่อยู่ด้านบนชิ้นงานจะมีสีที่สว่างที่สุดและสีจะค่อยๆมืดลงไปยังส่วนที่อยู่ด้านล่าง ยกตัวอย่างจากในรูปด้านล่าง เชือกที่พันอยู่รอบลำตัวจะมีสีขาวที่สว่างสุดตรงบริเวณไหล่ซ้ายและสีของเชือกจะค่อยๆเข้มขึ้นในส่วนที่ต่ำลงมาและจะเข้มสุดตรงบริเวณเอวด้านขวาซึ่งกำหนดให้จุดนั้นเป็นส่วนของเงาครับ
หมายเหตุ: หมวกขนสัตว์แบบรัสเซียนี้ เรียกว่า ushanka ครับ เป็นหมวกที่มีที่ครอบหูโดยจะผูกเก็บที่ครอบเอาไว้ด้านบนหมวกเหมือนอย่างที่ตัวโมเดลทำมา หรือจะครอบปิดหูเพื่อกันความหนาวและผูกให้ติดกันบริเวณใต้คางครับ นอกจากนี้ขนที่หนาๆบนหมวกยังช่วยในการกันกระแทกที่อาจจะเกิดต่อศรีษะของผู้สวมใส่ได้ด้วยครับ (ref. Wikipedia)
Sunday, November 23, 2014
Monday, November 17, 2014
MV's Bananalicious Painting Contest 2
It's a pity I didn't have a chance to participate in this epic online contest last year. This year they have two new categories and one of it has attracted my interest. "Special Free Category: Base" I've never seen any contest have this category before, so I think it will be fun to try on this one. :)
The contest ends in April 22th 2015. There is enough time to finish a new project or more for other categories, we'll see. :)
Therefore, if you want to be a part of this epic event and have a chance to win something from their Random Prize Pool, please click on their banner below for more info. :)
Bananalicious เป็นการประกวดภาพถ่ายผลงานออนไลน์ จัดโดยเว็บไซต์ MASSIVE VOODOO ครับ ในปีนี้เป็นการจัดประกวดเป็นครั้งที่สอง ซึ่งในปีแรกมีผลงานเข้าร่วมประกวดถึง 172 ชิ้นครับ ส่วนปีนี้นั้นแบ่งรุ่นของการประกวดออกเป็น 8 ประเภท และมีประเภทหนึ่งที่น่าสนใจและผมยังไม่เคยเห็นมีใครจัดการประกวดสำหรับประเภทนี้มาก่อน คือ Special Free Category: Base ครับ ที่จะให้ส่งประกวดเฉพาะตัวฐานโดยไม่ต้องมีโมเดลประกอบ เลยตั้งใจว่าปีนี้จะลองร่วมสนุกในรุ่นนี้ดูครับ และถ้ามีเวลาพออาจจะทำส่งในรุ่นอื่นๆดูด้วย :)
งานประกวดครั้งนี้สามารถส่งผลงานได้ถึงวันที่ 22 เมษา ปี 2015 ครับ และทุกผลงานที่เข้าร่วมมีสิทธิได้ของรางวัลที่ระลึก Random Prize Pool จากการสุ่มรายชื่อของผู้ที่เข้าร่วมด้วยครับ ถ้าท่านไหนสนใจอยากเข้าร่วมลองไปดูรายละเอียดเพิ่มได้ตามลิ๊งค์รูปภาพครับ :)
Thursday, November 6, 2014
Night Lords Night Raptor (part 2)
One of the attractive point of this mini is the expression of the movement. I wanted the base that can be shown this point so it ended up with this design. It has a ruined large pillar as a main structure of the base. The height of the pillar and placing the mini on top of it are what help to demonstrate the movement of the mini.
The pillars was made from DAS modelling clay and coated with diluted putty and sanded with fine sand paper in order to create a smooth surface (it will be painted as marble). I put two pillars on the plinth first in order to adjust and find the suitable position for the mini and the pillars before I did the groundwork, then glued with white glue and sanded the excess from the edge of the plinth (Click Here for How to make a plinth from Toothpick box). The ruins was made from brick debris and plaster and glued together with white glue. The floor tiles was made from DAS modelling clay by rolled into thin sheet then coated with diluted putty and sanded smooth as well. I also made candlestick from plastic tube and copper wire and put it on the left side of the pillar in order to fill the empty space on that area and more proper in composition.
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้มารีนตัวนี้ดูน่าสนใจ คือการแสดงท่าทางที่ดูเหมือนกำลังเคลื่อนไหวอยู่ ผมจึงต้องการให้ฐานของมันนั้นเป็นส่วนที่ช่วยแสดงให้เห็นในจุดนี้ได้เด่นชัดขึ้น โดยเลือกที่จะทำเป็นฐานของซากอาคาร ที่มีเสาอยู่ตรงกลางของฐานเป็นโครงสร้างหลัก และใช้ความสูงของเสาและการจัดวางมารีนบนยอดเสา เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวได้ชัดเจนขึ้น เหมือนกับว่ากำลังลอยอยู่บนยอดเสาครับ
ส่วนของเสานั้นทำมาจากดินปั้น DAS modelling clay และอุดขัดผิวให้เรียบด้วยพุตตี้เพราะจะทำสีเป็นเสาหินอ่อนในภายหลังครับ จากนั้นนำเสาทั้งสองส่วนมาลองจัดวางบนฐานวงกลม เพื่อกำหนดจุดวางของเสาและตัวมารีนให้ดูสมดุลกับฐาน แล้วจึงติดกาวกับขัดส่วนที่เกินออกให้เรียบร้อยก่อนที่จะทำในส่วนพื้น (ฐานวงกลมนี้ ทำมาจากกล่องไม้จิ้มฟันครับ ลองดูวิธี่การทำได้ที่นี่ Click Here) โดยส่วนของพื้นฉากจะทำเป็นแบบซากปรักหักพังที่ทำจากเศษอิฐและปูนพลาสเตอร์ครับ (ดูวิธีการได้ที่นี่ Click Here) ส่วนกระเบื้องที่เห็นก็ทำมาจากดินปั้น DAS เช่นกันครับ โดยรีดเป็นแผ่นบางๆแล้วอุดขัดผิวด้วยพุตตี้ ก่อนนำมาตัดเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ นอกจากนี้ผมทำเชิงเทียนจากแท่งพลาสติก และติดเพิ่มเข้าไปบริเวณด้านซ้ายของเสา เพื่อให้ที่ว่างบริเวณนั้นไม่ดูโล่งและช่วยให้องค์ประกอบทั้งหมดนั้นดูลงตัวมากขึ้นครับ
The pillars was made from DAS modelling clay and coated with diluted putty and sanded with fine sand paper in order to create a smooth surface (it will be painted as marble). I put two pillars on the plinth first in order to adjust and find the suitable position for the mini and the pillars before I did the groundwork, then glued with white glue and sanded the excess from the edge of the plinth (Click Here for How to make a plinth from Toothpick box). The ruins was made from brick debris and plaster and glued together with white glue. The floor tiles was made from DAS modelling clay by rolled into thin sheet then coated with diluted putty and sanded smooth as well. I also made candlestick from plastic tube and copper wire and put it on the left side of the pillar in order to fill the empty space on that area and more proper in composition.
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้มารีนตัวนี้ดูน่าสนใจ คือการแสดงท่าทางที่ดูเหมือนกำลังเคลื่อนไหวอยู่ ผมจึงต้องการให้ฐานของมันนั้นเป็นส่วนที่ช่วยแสดงให้เห็นในจุดนี้ได้เด่นชัดขึ้น โดยเลือกที่จะทำเป็นฐานของซากอาคาร ที่มีเสาอยู่ตรงกลางของฐานเป็นโครงสร้างหลัก และใช้ความสูงของเสาและการจัดวางมารีนบนยอดเสา เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวได้ชัดเจนขึ้น เหมือนกับว่ากำลังลอยอยู่บนยอดเสาครับ
ส่วนของเสานั้นทำมาจากดินปั้น DAS modelling clay และอุดขัดผิวให้เรียบด้วยพุตตี้เพราะจะทำสีเป็นเสาหินอ่อนในภายหลังครับ จากนั้นนำเสาทั้งสองส่วนมาลองจัดวางบนฐานวงกลม เพื่อกำหนดจุดวางของเสาและตัวมารีนให้ดูสมดุลกับฐาน แล้วจึงติดกาวกับขัดส่วนที่เกินออกให้เรียบร้อยก่อนที่จะทำในส่วนพื้น (ฐานวงกลมนี้ ทำมาจากกล่องไม้จิ้มฟันครับ ลองดูวิธี่การทำได้ที่นี่ Click Here) โดยส่วนของพื้นฉากจะทำเป็นแบบซากปรักหักพังที่ทำจากเศษอิฐและปูนพลาสเตอร์ครับ (ดูวิธีการได้ที่นี่ Click Here) ส่วนกระเบื้องที่เห็นก็ทำมาจากดินปั้น DAS เช่นกันครับ โดยรีดเป็นแผ่นบางๆแล้วอุดขัดผิวด้วยพุตตี้ ก่อนนำมาตัดเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ นอกจากนี้ผมทำเชิงเทียนจากแท่งพลาสติก และติดเพิ่มเข้าไปบริเวณด้านซ้ายของเสา เพื่อให้ที่ว่างบริเวณนั้นไม่ดูโล่งและช่วยให้องค์ประกอบทั้งหมดนั้นดูลงตัวมากขึ้นครับ
Subscribe to:
Posts (Atom)