Apple Maps บนเว็บเปิดใช้งานในรุ่นเบต้า
- ความพร้อมใช้งานจะแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค
Media
-
เนื้อหาของบทความนี้
เนื้อหาของบทความนี้
25 กรกฎาคม 2567
อัพเดท
Apple Maps บนเว็บเปิดใช้งานในรุ่นเบต้า
วันนี้ Apple Maps บนเว็บ เปิดใช้งานแล้วในรุ่นเบต้าเพื่อให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถเข้าถึงแอปแผนที่ได้โดยตรงจากในเบราว์เซอร์1
วันนี้ผู้ใช้สามารถดูเส้นทางขับรถและการเดิน ค้นหาสถานที่ดีๆ และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ อย่างรูปภาพ เวลาทำการ คะแนน และรีวิว รวมถึงทำสิ่งต่างๆ อย่างการสั่งอาหารโดยตรงจากบัตรสถานที่ในแอปแผนที่ และเลือกดูสถานที่น่าสนใจที่คัดสรรมาเพื่อให้ผู้ใช้ได้ค้นพบสถานที่สำหรับทานอาหาร ช้อปปิ้ง และสำรวจในหลายเมืองทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ เพิ่มเติมอย่าง "มองไปรอบๆ" ที่จะพร้อมใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
นักพัฒนาทุกราย รวมถึงผู้ที่ใช้ MapKit JS ยังสามารถลิงก์ไปยังแอปแผนที่บนเว็บเพื่อให้ผู้ใช้ของตนสามารถดูเส้นทางขับรถ รายละเอียดของสถานที่ และอีกมากมายได้
ขณะนี้แอปแผนที่บนเว็บมีให้ใช้งานในภาษาอังกฤษ และใช้งานได้กับ Safari และ Chrome บน Mac และ iPad รวมถึง Chrome และ Edge บน Windows PC และจะทยอยรองรับภาษา เบราว์เซอร์ และแพลตฟอร์มอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต
เนื้อหาของบทความนี้
9 กรกฎาคม 2567
อัพเดท
Apple และ Major League Baseball ประกาศตารางเวลารายการ "Friday Night Baseball" ประจำเดือนสิงหาคม
วันนี้ Apple และ Major League Baseball (MLB) ประกาศตารางเวลารายการ "Friday Night Baseball" ประจำเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นการแข่งขันรายสัปดาห์ 2 คู่ต่อกันที่จะออกอากาศทาง Apple TV+ ทุกวันศุกร์ให้สมาชิกได้รับชมตลอดช่วงฤดูกาลปกติของปี 2024 โดยแฟนๆ ใน 60 ประเทศและภูมิภาคสามารถรับชมการแข่งขันทั้ง 2 คู่ตลอดระยะเวลา 26 สัปดาห์ได้โดยไม่ติดข้อจำกัดของการถ่ายทอดในท้องถิ่น
"Friday Night Baseball" มาพร้อมกับทีมงานฝีมือเยี่ยมสำหรับการถ่ายทอดสดเกมเบสบอล ได้แก่ Wayne Randazzo (ผู้บรรยายการแข่งขัน), Dontrelle Willis (นักวิเคราะห์), Heidi Watney (ผู้สื่อข่าวขอบสนาม), Alex Faust (ผู้บรรยายการแข่งขัน), Ryan Spilborghs (นักวิเคราะห์) และ Tricia Whitaker (ผู้สื่อข่าวขอบสนาม) พร้อมด้วย Ted Barrett, Brian Gorman และ Dale Scott อดีตกรรมการ MLB ที่จะมาร่วมวิเคราะห์กฎและการตัดสินในแต่ละสัปดาห์ โดยจะมีการแจ้งรายชื่อผู้บรรยายสำหรับการแข่งขันแต่ละคู่ทุกสัปดาห์
Lauren Gardner รับหน้าที่ดำเนินรายการสดทั้งก่อนและหลังเกมการแข่งขัน พร้อมด้วยอดีตผู้เล่น MLB และนักวิเคราะห์ Xavier Scruggs และนักข่าวเบสบอล Russell Dorsey
"Friday Night Baseball" เป็นผลงานของทีมผู้สร้างจาก MLB Network ที่ได้รับรางวัล Emmy Award ร่วมกับทีมถ่ายทอดกีฬาสดของ Apple เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสกับประสบการณ์การรับชมที่ยากจะหาใครเทียบ โดยแต่ละเกมจะมีการใช้กล้องที่ล้ำสมัยเพื่อถ่ายทอดจังหวะแอ็คชั่นอันน่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมด้วยระบบเสียงเต็มอิ่มสมจริงในรูปแบบ 5.1 เมื่อเปิดใช้งานระบบเสียงตามตำแหน่ง นอกจากนี้ "Friday Night Baseball" ยังใช้กล้องจากโดรนเพื่อเก็บภาพสนามกีฬาสวยๆ จากทางอากาศ รวมถึงไมโครโฟนสำหรับผู้เล่น และไมโครโฟนขอบสนาม เพื่อให้แฟนๆ ได้เต็มอิ่มกับเกมการแข่งขันและบรรยากาศในสนาม โดยแฟนๆ ในสหรัฐฯ และแคนาดา ยังสามารถเลือกฟังเสียงบรรยายจากสถานีวิทยุท้องถิ่นของทีมเหย้าและทีมเยือนในระหว่างเกม "Friday Night Baseball" ได้อีกด้วย1
แฟนๆ สามารถติดตาม MLB และทีม MLB ที่พวกเขาชื่นชอบพร้อมดูสถิติและคะแนน MLB แบบละเอียดได้ทาง Apple Sports โดย Apple Sports คือแอปฟรีใหม่สำหรับ iPhone ที่ให้แฟนๆ กีฬาสามารถดูคะแนน สถิติ และอื่นๆ ได้ในแบบเรียลไทม์2 แอปออกแบบมาเพื่อความรวดเร็วและความเรียบง่ายพร้อมประสบการณ์การรับชมที่ปรับแต่งได้ ทำให้ลีกและทีมโปรดของผู้ใช้โดดเด่นอยู่ตรงกลาง พร้อมด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายซึ่งออกแบบโดย Apple
แฟนเบสบอลในสหรัฐฯ สามารถเพลิดเพลินกับ MLB Big Inning รายการที่นำเสนอไฮไลท์ต่างๆ จากเกมการแข่งขันทุกคืนวันหยุดสุดสัปดาห์ และรายการที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับ MLB แบบเต็มได้ทาง Apple TV+ รวมทั้ง Countdown to First Pitch MLB Daily Recap และ MLB This Week แฟนเบสบอลยังสามารถดูรายการ MLB อื่นๆ ได้ฟรีในแอป Apple TV รวมถึงสรุปผลการแข่งขันแบบเข้มข้นหลังจบการถ่ายทอดสด “Friday Night Baseball” ในแต่ละสัปดาห์ รวมทั้งเกมคลาสสิกต่างๆ ไฮไลท์และบทสัมภาษณ์ และอีกมากมาย
ในฤดูกาลนี้ DIRECTV FOR BUSINESS จะรับหน้าที่ถ่ายทอด “Friday Night Baseball” ระดับชาติเพียงรายเดียวอีกครั้ง สำหรับสถานประกอบการเชิงพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกา โดย DIRECTV จะส่งสัญญาณการถ่ายทอดไปยังเครือข่ายร้านอาหาร บาร์ ห้องรับรองของโรงแรม ร้านค้าปลีก และสถานที่อื่นๆ มากกว่า 300,000 แห่ง ตลอดช่วงฤดูกาลปกติผ่านทางอุปกรณ์รับสัญญาณดาวเทียมเดิมที่มีอยู่
แฟนเบสบอลยังสามารถติดตามลีกและทีมโปรดของตนเองได้ใน MLB feed ทาง Apple News และรับชมไฮไลท์ MLB ที่คัดสรรมาตามความชอบเฉพาะตัวได้โดยตรงในแอป News โดยทุกวันศุกร์ แฟนเบสบอลสามารถติดตามเรื่องราวที่คัดสรรมาแล้วว่าน่าตื่นเต้นที่สุดจากทั่วทั้งลีก แล้วแตะเพื่อรับชม "Friday Night Baseball" ได้โดยตรงจากในแอป Apple TV เมื่อเป็นสมาชิก Apple TV+ ส่วนใน Apple Music นั้น แฟนเบสบอลสามารถฟังเพลย์ลิสต์สุดพิเศษอย่างเป็นทางการที่รวมเพลงขณะเดินเข้าสนามของทีมที่ลงแข่งในแต่ละสัปดาห์ รวมถึงคอลเลกชั่นเพลงคลาสสิกสำหรับคอเบสบอล
สมาชิก Apple TV+ สามารถรับชม “Friday Night Baseball” ได้ทางแอป Apple TV ซึ่งได้รับการติดตั้งมาให้แล้วใน iPhone, iPad, Apple TV, Mac และ Apple Vision Pro รวมถึงชมแบบออนไลน์ได้ที่ tv.apple.com นอกจากนี้แอป Apple TV ยังมีให้ใช้งานในสมาร์ททีวีหลายรุ่น เช่น Samsung, LG, Panasonic, Sony, TCL, VIZIO และอื่นๆ อุปกรณ์ Amazon Fire TV และ Roku เครื่องเล่นเกมคอนโซล PlayStation และ Xbox และ Chromecast ที่มาพร้อม Google TV รวมถึงกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ต่างๆ อย่าง Sky Q, SK Braodband และ Comcast Xfinity ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ apple.com/th/apple-tv-app แฟนๆ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของทุกเกมใน MLB ฤดูกาลนี้ได้แบบเรียลไทม์บนหน้าจอล็อค iPhone ด้วยคุณสมบัติกิจกรรมสด3 และการชมแบบหลายมุมมองบนอุปกรณ์ Apple TV 4K และ iPad ยังเปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้สตรีมคอนเทนต์สูงสุดถึง 4 สตรีมในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเกม "Friday Night Baseball" การแข่งขัน Major League Soccer หรือรายการสด MLS และ MLB บางรายการ4
ตารางเวลารายการ "Friday Night Baseball" บน Apple TV+
วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม
Kansas City Royals ออกไปเยือน Detroit Tigers
18:30 น. ET
Milwaukee Brewers ออกไปเยือน Washington Nationals
18:30 น. ET
วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม
Cleveland Guardians ออกไปเยือน Minnesota Twins
20:00 น. ET
Cincinnati Reds ออกไปเยือน Milwaukee Brewers
20:00 น. ET
วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม
Toronto Blue Jays ออกไปเยือน Chicago Cubs
14:00 น. ET
Seattle Mariners ออกไปเยือน Pittsburgh Pirates
18:30 น. ET
วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม
St. Louis Cardinals ออกไปเยือน Minnesota Twins
20:00 น. ET
Cincinnati Reds ออกไปเยือน Pittsburgh Pirates
18:30 น. ET
วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม
Seattle Mariners ออกไปเยือน Los Angeles Angels
21:30 น. ET
San Diego Padres ออกไปเยือน Tampa Bay Rays
18:30 น. ET
ราคาและการวางจำหน่าย
Apple TV+ พร้อมให้บริการในราคา 249 บาท ต่อเดือนโดยสามารถทดลองรับชมได้ฟรี 7 วัน นอกจากนี้ลูกค้าที่ซื้อและเปิดใช้งานอุปกรณ์ Apple เครื่องใหม่ที่เข้าเกณฑ์สามารถใช้บริการ Apple TV+ ได้ฟรีนาน 3 เดือน จนกว่าข้อเสนอจะสิ้นสุด
เนื้อหาของบทความนี้
26 มิถุนายน 2567
อัพเดท
Apple ขยายการรองรับเครื่องมือวินิจฉัย Self Service Repair สู่ยุโรป
เครื่องมือวินิจฉัยของ Apple สำหรับ Self Service Repair ซึ่งเป็นเครื่องมือซอฟต์แวร์ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้เอง พร้อมให้บริการแล้วตอนนี้ในยุโรปรวม 32 ประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ โดยเครื่องมือวินิจฉัยดังกล่าวได้เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023 ทำให้ผู้ใช้สามารถทดสอบความสมบูรณ์ด้านฟังก์ชันการทำงานและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้เองแบบเดียวกับผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Apple และผู้ให้บริการซ่อมอิสระ ทั้งยังช่วยตรวจสอบว่าชิ้นส่วนใดที่ต้องได้รับการซ่อม ซึ่งการขยายบริการครั้งนี้ทำให้เครื่องมือวินิจฉัยของ Apple สำหรับ Self Service Repair พร้อมให้บริการช่วยเหลือ iPhone, Mac และ Studio Display ใน 33 ประเทศ รวม 24 ภาษา
เครื่องมือวินิจฉัยเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามอย่างต่อเนื่องของ Apple ที่จะยืดอายุการใช้งานผลิตภัณฑ์ Apple ให้นานยิ่งขึ้น แม้ตลอดมา Apple ให้สัญญาว่าจะมอบตัวเลือกการซ่อมแซมที่ปลอดภัยและจับต้องได้ แต่การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนานยังคงมีความสำคัญสูงสุด ตัวเลือกการซ่อมที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าและโลกก็คือการที่ไม่จำเป็นต้องซ่อม และวันนี้ Apple ได้เผยแพร่รายงานฉบับหนึ่งที่อธิบายหลักการด้านการออกแบบเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ภายใต้การรักษาสมดุลระหว่างความทนทานของผลิตภัณฑ์และคุณสมบัติที่รองรับการซ่อมแซม
ลูกค้าสามารถใช้เครื่องมือวินิจฉัยของ Apple เพื่อตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ของตนเองจำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซมหรือไม่ โดยให้เริ่มต้นขั้นตอนบนผลิตภัณฑ์อีกเครื่องหนึ่ง แล้วตรวจสอบสถานะและประสิทธิภาพของอุปกรณ์เครื่องที่อาจจำเป็นต้องได้รับการซ่อม หลังจากเริ่มขั้นตอนและทำตามคำแนะนำต่างๆ บนหน้าจอ ลูกค้าก็จะทราบว่าผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาจำเป็นต้องได้รับการซ่อมหรือไม่ และต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนใดบ้าง
Self Service Repair ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน ปี 2022 เปิดโอกาสให้ทุกคนที่มีประสบการณ์ในการซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถเข้าถึงคู่มือ ชิ้นส่วนแท้ของ Apple และเครื่องมือต่างๆ เหมือนกับที่ใช้ในสาขา Apple Store และผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Apple โดย Self Service Repair นั้นรองรับผลิตภัณฑ์ Apple รวม 42 รายการ ซึ่งตอนนี้รวมถึง MacBook Air รุ่นต่างๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยชิป M3 ด้วย และในปีหน้า แคนาดาจะเป็นประเทศที่ 34 ที่ Apple เปิดให้บริการ Self Service Repair
เนื้อหาของบทความนี้
20 มิถุนายน 2567
อัพเดท
Final Cut Pro เวอร์ชั่นใหม่สำหรับ iPad และ Mac พร้อมให้ใช้งานแล้ว
วันนี้ Apple เปิดให้ดาวน์โหลด Final Cut Pro สำหรับ iPad 2 ที่จะเปลี่ยน iPad ให้กลายเป็นโปรดักชั่นสตูดิโอที่ทรงพลังยิ่งขึ้น พร้อมด้วย Final Cut Pro สำหรับ Mac 10.8 ซึ่งมาพร้อมอัปเดตสำคัญในด้านการจัดระเบียบโดยอาศัย AI ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเวิร์กโฟลว์
Final Cut Pro สำหรับ iPad 2 ปลดปล่อยความสามารถที่โดดเด่นของ iPad Pro ใหม่ซึ่งมาพร้อมชิป M4 ที่เร็วสุดขั้วโดยสามารถเรนเดอร์ได้เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า และรองรับสตรีม ProRes RAW ได้มากกว่าชิป M1 สูงสุด 4 เท่า นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ Live Multicam แบบใหม่ที่ให้ผู้ใช้เชื่อมต่อผ่านระบบไร้สายและดูตัวอย่างภาพจากกล้องได้พร้อมกันสูงสุด 4 ตัวในที่เดียว ช่วยให้ผู้ใช้เห็นภาพจากกล้องแต่ละตัวในมุมมองของผู้กำกับโดยใช้ iPhone ร่วมกับ iPad และควบคุมการตั้งค่าได้ตามต้องการผ่านแอประดับโปรแบบใหม่อย่าง Final Cut Camera ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Live Multicam และยังทำหน้าที่เป็นแอปเดี่ยวสำหรับการบันทึกวิดีโอบน iPhone และ iPad พร้อมด้วยความสามารถในการปรับค่า เช่น แมนวลโฟกัส, ความไวชัตเตอร์, ISO และอีกมากมาย1
ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดเก็บข้อมูลขณะทำงานกับไฟล์ขนาดใหญ่ วันนี้ Final Cut Pro สำหรับ iPad 2 รองรับโปรเจ็กต์ภายนอกแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่หลายคนเฝ้ารอ2 ผู้ใช้สามารถสร้างโปรเจ็กต์ใหม่หรือเปิดโปรเจ็กต์ที่มีอยู่เดิมได้โดยไม่ต้องใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายในเครื่อง และ Final Cut Pro สำหรับ iPad 2 ยังรองรับ Apple Pencil Pro ใหม่ ซึ่งใช้ประโยชน์จากการหมุนด้ามเพื่อควบคุมเครื่องมือ Live Drawing ได้แม่นยำยิ่งขึ้น และบีบด้ามเพื่อเรียกแปรงและการตั้งค่าขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
Final Cut Pro สำหรับ Mac 10.8 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถยกระดับเวิร์กโฟลว์ระดับโปรไปอีกขั้น ด้วยคุณสมบัติ AI ใหม่ๆ ใน Final Cut Pro ที่ขับเคลื่อนโดย Neural Engine ใน Apple Silicon นั่นคือ Enhance Light and Color และ Smooth Slo-Mo โดยที่ Enhance Light and Color จะปรับแก้สีของวิดีโอให้โดยอัตโนมัติ ในขณะที่ Smooth Slo-Mo จะผสมผสานวิดีโอแต่ละเฟรมเข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาดเพื่อให้การเคลื่อนไหวมีคุณภาพสูงสุด นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือใหม่ๆ ในการจัดระเบียบที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเวิร์กโฟลว์ของงานโพสต์โปรดักชั่น อย่างการตั้งชื่อให้กับการปรับแก้สีและเอฟเฟ็กต์วิดีโอใน Inspector ได้เอง รวมถึงความสามารถในการค้นหาคลิปที่ไม่มีสื่อหรือเอฟเฟ็กต์ในดัชนีไทม์ไลน์และพาผู้ใช้ไปที่คลิปนั้น หรือจะค้นหาไทม์ไลน์โดยการพิมพ์ข้อมูลอย่างม้วนฟิล์ม ฉาก มุมกล้อง และอื่นๆ ก็ได้
Final Cut Pro สำหรับ iPad 23 และ Final Cut Pro สำหรับ Mac 10.84 พร้อมให้ใช้งานแล้วในรูปแบบของการอัปเดตฟรีสำหรับผู้ใช้เดิม ในขณะที่ผู้ใช้ใหม่ สามารถดาวน์โหลด Final Cut Pro สำหรับ iPad 2 ได้ทาง App Store ในราคา 199 บาทต่อเดือน หรือ 1,990 บาทต่อปี และดาวน์โหลด Final Cut Pro สำหรับ Mac 10.8 ได้ทาง Mac App Store ในราคา 9,990 บาท